9 ข้อดีของการทำงานด้านธุรกิจบริการ
การท่องเที่ยวแบบลักซ์ชัวรี่เป็นที่นิยมอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเองก็เติบโตขึ้นอย่างมั่นคง บริษัทด้านธุรกิจบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ธุรกิจบริการก็มีการพัฒนาที่น่าสนใจทั้งในเชิงเทคโนโลยีและการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ซึ่งนำไปสู่โอกาสการจ้างงานที่หลากหลายมากขึ้น และนี่เป็นการบ่งชี้ว่าอาชีพด้านธุรกิจบริการคือตัวเลือกที่ดี และที่สำคัญ อาชีพนี้ยังมีข้อดีที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้
- มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
Anne Murphy นักวิจัยด้านจิตวิทยา อธิบายว่า การคิดวิเคราะห์อย่างสร้างสรรค์จะเกิดขึ้นได้ดีที่สุดตอนที่เราหยุดทำงานแบบซ้ำซากจำเจ Anne ระบุในนิตยสาร Time ว่าการทำงานในรูปแบบเดิมๆอยู่เสมอนั้นยากที่จะทำให้คนมีความเปิดกว้างทางความคิดและรู้จักยืดหยุ่น ดังนั้น สรุปได้ว่าคนที่มีตารางการทำงานที่หลากหลายจะมีระบบความคิดที่สร้างสรรค์มากกว่าหลายเท่า
- ส่งเสริมสุขภาพ คิดเชิงบวก มองโลกในแง่ดี
อาชีพด้านธุรกิจบริการทำให้คุณได้เห็นโลกที่กว้างขึ้น ซึ่งช่วยให้คุณได้พัฒนาสุขภาพทั้งกายและใจ ยกตัวอย่างนักเดินทางที่มักท่องเที่ยวอยู่เสมอ พวกเขามีความกังวลต่อสิ่งต่างๆน้อยลง ซึมเศร้าและเครียดน้อยลง อัตราการเกิดโรคหัวใจน้อยลง มีระบบภูมิต้านทานร่างกายสูงขึ้น มีความคิดที่ยืดหยุ่นมากขึ้น และมีอายุคาดเฉลี่ยสูงขึ้น
บริษัทธุรกิจบริการและลักซ์ชัวรี่มีสาขาอยู่ทั่วโลก ดังนั้นพนักงานบริษัทเหล่านี้จึงสามารถโยกย้ายไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งแปลว่าอาชีพด้านธุรกิจบริการ ไม่ได้ทำให้คุณ “อาจจะ” ได้เดินทาง แต่ “สนับสนุน “ และ “ดำเนินการ” ให้คุณได้เดินทางต่างหาก! อาชีพนี้สร้างโอกาสอย่างไม่จบสิ้นและทำให้คุณมีสุขภาพกายที่แข็งแรง
- ได้รับประสบการณ์ที่ใช้ได้จริง ทุกที่ ทุกเวลา
หัวใจสำคัญของอาชีพด้านธุรกิจบริการคือการมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้ลูกค้า การทำอาชีพนี้จะหล่อหลอมให้คุณมีทักษะการทำงานที่เป็นที่ยอมรับและประยุกต์ใช้ได้ในทุกธุรกิจไม่ว่าที่ใดก็ตามในโลก นอกจากนี้ อาจกล่าวได้ว่าโรงแรมเปรียบเสมือนโลกใบเล็กที่มอบประสบการณ์หลากหลาย ทั้งศิลปะการประกอบอาหาร การเงิน การสื่อสาร การบริหารคน การบริหารโครงการ การบริหารธุรกิจ และการบันเทิง การเลือกเรียนสาขาธุรกิจบริการช่วยทำให้คุณก้าวกระโดดเข้าสู่โลกแห่งการทำงานหลังจบการศึกษาได้อย่างมั่นใจ และยังเป็นประตูสู่อาชีพสาขาอื่นๆในอนาคตอีกด้วย
- หนึ่งในธุรกิจที่มั่นคงที่สุด
ภายในปี 2025 นั้น 10.5% ของงานทั่วโลกจะอยู่ในสาขาการบริการและการท่องเที่ยว และคาดว่าจะสร้างเม็ดเงินถึง 11.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คงปฏิเสธไม่ได้ว่านับวันเทคโนโลยีก็ยิ่งมีผลต่อธุรกิจต่างๆ บางธุรกิจอาจถึงกับใช้เทคโนโลยีทำงานแทนคน นับว่าโชคดีที่ถึงแม้ว่าธุรกิจบริการเองก็อาศัยเทคโนโลยีในการช่วยทำงานบางอย่าง แต่ยังไงเทคโนโลยีก็ไม่สามารถมาแทนที่คนได้อย่างแน่นอน เพราะนั่นคือหลักการหลักของธุรกิจบริการ “ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คน” จากการค้นพบของ Fortune Insiders สรุปว่า ตำแหน่งงานเกี่ยวกับ “การจัดการและการพัฒนาคน” “การตัดสินใจ การวางแผน การทำงานอย่างสร้างสรรค์” และ “การมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ผู้ผลิต ผู้จัดส่ง และผู้ถือผลประโยชน์ร่วม” คือบรรดาตำแหน่งที่ยากที่สุดที่จะทำโดยอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยี อาจดูตัวอย่างการรับสมัครงานด้านธุรกิจบริการของ Hosco ที่กว่า 33,000 ตำแหน่ง ล้วนแล้วแต่เป็นงานที่ต้อง”เผชิญหน้ากับคน” และอาศัย soft skill (ความสามารถทางสังคม เช่น การสื่อสาร การจัดการอารมณ์ การบริหารเวลา เป็นต้น) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานในอาชีพนี้ที่ไม่สามารถแทนที่ได้ด้วยเทคโนโลยีใดๆ
- มีความพิถีพิถัน
องค์กรธุรกิจบริการให้ความสำคัญกับการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าและมีเป้าหมายที่จะพัฒนาการบริการให้ดีขึ้นเรื่อยๆในแต่ละปี โดยเฉพาะในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งนับเป็นส่วนสำคัญของการจับจ่ายใช้สอยเมื่อเดินทางท่องเที่ยว
คนที่ทำงานในธุรกิจบริการมักจะรู้จักอาหารอร่อย ไวน์รสเลิศ และที่พักสุดหรู และที่สำคัญ เมื่อเป้าหมายในการทำงานคือการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ทำให้พวกเขากลายเป็นคนใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ และมีความพิถีพิถัน Blanca Bertely ศิษย์เก่ากลียอง โรงเรียนบริหารธุรกิจบริการชั้นนำของโลกในสวิตเซอร์แลนด์ (Glion Institute of Higher Education) เล่าว่าระหว่างที่เธอฝึกงาน เธอได้ทำงานร่วมกับเชฟที่ทั้งเก่งทั้งใจดี เขาให้เธอชิมอาหารจานเด็ดมากมาย และนั่นก็เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เธอเปิดร้านขนมระดับไฮเอนด์เป็นของตัวเองในที่สุด จากผลสำรวจของ NBC พบว่าคนยุค Millennials ให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์” มากกว่า “วัตถุ” เห็นได้ชัดว่าอาชีพด้านธุรกิจบริการตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้อย่างชัดเจน
6.เหมือนไม่ได้ทำงาน
ธุรกิจบริการได้รับการจัดอันดับให้เป็นที่ 6 ในลิสท์ธุรกิจ Top 10 ที่มีความสุขที่สุด ทำงานแล้วมีความสุขเหมือนไมได้ทำงาน โดยวัดผลจากเสียงผู้ทำงานจริง เช่น “ตื่นเต้นกับงานและโปรเจ็คท์ต่างๆ” “ได้ทำงานกับคนเก่งๆ” และ “รู้สึกเป็นที่ยอมรับและได้รับการชื่นชม”
บริษัทธุรกิจบริการทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในอาชีพ ทำให้อัตราการเปลี่ยนงานหรือลาออกของพนักงานลดน้อยลง พนักงานสามารถเลื่อนตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและได้รับเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนั่นอาจอธิบายได้ว่าทำไมถึงมีคนกว่า 212 ล้านคนทั่วโลกอยากทำอาชีพนี้
- มีโอกาสก้าวหน้าในอาชีพ
เชิงสถิติ พบว่า คนยุค Millennials มองหางานที่ทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้น จาก Harvard Business Review อ้างว่า “โอกาสการเติบโต” คือหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดเมื่อเลือกงาน อาชีพด้านธุรกิจบริการ มอบโอกาสให้พนักงานได้เดินทางไปต่างประเทศและได้พบปะผู้คนใหม่ๆอยู่เสมอ ไม่วาจะทำอาชีพอะไร การสร้างเครือข่ายและเจอคนใหม่ๆคือจุดเริ่มต้นของโอกาสต่างๆที่จะตามมาในอนาคต คนที่ทำงานในสาขาการบริการ โดยเฉลี่ยจะได้พบเจอคนใหม่ๆมากกว่าอาชีพอื่นๆถึง 3 เท่า ในแต่ละวัน
- พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์
จากการวิจัยของ HVS ชี้ให้เห็นว่า ผู้นำในสาขาธุรกิจบริการส่วนใหญ่มักมีลักษณะบางอย่างที่เหมือนกัน พวกเขามีความฉลาดทางอารมณ์สูงมาก ซึ่งความฉลาดทางอารมณ์นี้นับเป็นทักษะที่ได้รับการขัดเกลาจากการทำงานในธุรกิจบริการที่ต้องเรียนรู้ความแตกต่างทางวัฒนธรรม มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน และรู้จักสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายสำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคสมัยนี้ที่ปัญญาประดิษฐ์หรือ A.I. (Artificial Intelligence) เติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความฉลาดทางอารมณ์นั้นเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าเดิม คนที่มี EQ สูงจะได้เปรียบมาก พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง ดูแลสุขภาพได้ดี และประสบความสำเร็จในชีวิต
- หางานได้ง่ายขึ้น
การที่คุณมีประสบการณ์ทำงานด้านธุรกิจบริการจะทำให้คุณเป็นที่ต้องการเวลาสมัครงาน นั่นก็เป็นเพราะคุณมีทักษะทางสังคมที่จำเป็นหรือที่เรียกกันว่า “soft skills” ซึ่งได้แก่ การสื่อสาร ความนอบน้อม การให้ความร่วมมือ และการมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี จากผลสำรวจของ Forbes เผยว่าเจ้าหน้าที่ทรัพยากรบุคคลระดับสูง และ CEO ต่างๆมักระบุว่า “soft skills” เป็นสิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเวลาคัดเลือกพนักงาน อาจกล่าวได้ว่าคนที่มีประสบการณ์ทำงานบริการนั้นเป็นที่ต้องการมากกว่าคนที่มีความเชี่ยวชาญทางเทคนิค
ขอบคุณข้อมูลจาก กลียอง (Glion Institute of Higher Education)
กลียองก่อตั้งเมื่อปี 1962 เตรียมความพร้อมให้นักเรียนก้าวสู่ธุรกิจบริการอย่างมั่นใจ การศึกษาสาขาบริหารธุรกิจบริการที่มีมาตรฐานสูงและได้รับการยอมรับระดับนานาชาติอย่างกลียองคือใบเบิกทางที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นอาชีพด้านธุรกิจบริการ กลียองเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยการลงมือทำจริง ได้ทำงานที่ภัตตาคารและโรงแรมฝึกหัดของโรงเรียนที่เปิดให้คนทั่วไปได้มาใช้บริการ และที่สำคัญ นักเรียนยังได้ไปฝึกงานสองภาคเรียนรวมเป็นระยะเวลา 1 ปีกับองค์กรต่างๆ ทำให้มีประสบการณ์ทำงานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ พร้อมก้าวสู่โลกธุรกิจบริการทันทีหลังสำเร็จการศึกษา