เรียกได้ว่า ถ้าพูดถึงคำว่า บูทีค โฮเท็ล คงเป็นคำที่ทุกคนคุ้นหูกันเป็นอย่างดีและได้ยินกันมานาน อีกทั้งโรงแรมหลายๆแห่งทั่วโลก มักจะพ่วงคำนี้อยู่ในชื่อของโรงแรมเสมอ สงสัยกันไหมว่า ความหมายจริงๆของคำนี้ คืออะไรกันแน่?

จะเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ก็ว่าได้ ที่ฉีกกฏเกณฑ์เดิมๆ ไม่ใช่โรงแรมประเภทที่เคยเห็นได้ทั่วไป โดยประวัติความเป็นมา เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1980 กับโรงแรมๆเล็กแห่งหนึ่งในใจกลางเมืองใหญ่อย่างลอนดอนและนิวยอร์ค เหล่าเจ้าของโรงแรมเริ่มที่จะประสบความสำเร็จในเทรนของการนำเอาความเป็นบูทีคมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเฟอร์นิเจอร์เก๋ๆ หรือแม้แต่การบริการที่เน้นเอาความ “ชิค” มานำเสนอให้กับแขกผู้เข้าพัก เหล่าเจ้าของธุรกิจหัวใสคงไม่คิดว่าต่อมาสามสิบปี จะมีคู่แข่งทางธุรกิจผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด จากคำว่า “บูทีค” ที่ไม่ได้อยู่เพียงแค่ในโรงแรม แต่ดันปรากฏอยู่บนสื่อและสไตล์การออกแบบต่างๆอีกมากมาย แต่ถึงกระนั้นแล้ว ก็มีลิสอยู่หลายข้อ ที่จะต้องมี เพื่อให้ได้มาซึ่งคำว่า “บูทีค” ดังนี้

  • โรงแรมบูทีคจะต้องเล็ก! ห้ามเกิน 100 ห้อง เรียกได้ว่าความใกล้ชิดสนิทสนมเป็นหัวใจของบูทีคก็ว่าได้
  • เป็นโรงแรมที่เป็นอิสระ หรืออาจจะเป็นส่วนหนึ่งของเชนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบูทีคเท่านั้น
  • จะต้องอยู่ใจกลางเมืองหรือย่านฮิปๆ เช่น ใจกลางแหล่งช็อปปิ้งเป็นต้น
  • ออกแบบตกแต่งโดยดีไซร์เนอร์ ด้วยนวัตกรรมแบบใหม่ๆอินเทรน
  • รู้สึกกลมกลืน เป็นส่วนหนึ่งกับสถานที่ตั้ง เช่น การเสิร์ฟอาหารถิ่น เป็นต้น
  • คำว่าโรงแรมบูทีคไม่ได้หมายถึงแค่ห้องพัก แต่จะต้องเป็นการที่รวมเอาผู้คนที่มีความเทรนดี้และเจ๋งๆมารวมตัวกันที่ล็อบบี้หรือบาร์

เป็นปรากฏการณ์ที่ต้องยอมรับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เหล่าเชนโรงแรมดังๆหลายแห่งเริ่มที่จะนำเสนอความ “ใกล้ชิด สนิทสนม” สไตล์บูทคมากขึ้น อย่างแบรนด์ “W” และ “aloft’ ในเครือสตาร์วูดเองเป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง หรือจะเป็น “Indigo” จากเครือ InterContimemtal Hotel Group ก็เช่นกัน และเว็บไซต์ Design Hotels เองก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่รวบรวมเอาโรงแรมฮิปๆอินเทรนสไตล์บูทีคทั่วโลกไว้ด้วยกัน

 

Moxy by Marriott

Moxy เป็นอีกหนึ่งโรงแรมเก๋ๆในฝันของเหล่าเจน Y ที่ชื่นชอบการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ด้วยการตกแต่งด้วยแถบสีที่เป็นแสงไฟกับพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง ด้วยการตกแต่งแบบดิจิตอลอาร์ต ที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนโฮสเทล แต่เป็นโรงแรมที่ได้มาตรฐานระดับสากล เรียกว่าได้รับประสบการณ์และสัมผัสกับบรรยากาศเหมือนอยู่ในอวกาศ และความไฮเทคด้วยการตกแต่งแบบล้ำๆเลยทีเดียว

Tryp, by Wyndham

ได้รับแรงบรรดาลใจจากการออกแบบสไตล์โมเดิน ด้วยยุคสมัยของคนรุ่นใหม่ Tryp เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ลูก ที่เน้นเรื่องประสบการณ์ผู้เข้าพัก ที่จะให้ความรู้สึกที่ไม่ทางการมากเกินไป เต็มไปด้วยพลังและความเป็นเป็นเอกลักษณ์ ห้องถูกสร้างขึ้นมาให้สามารถเข้าถึงกันได้ง่ายตามความต้องการ ด้วยห้องครอบครัวที่ประกอบไปด้วยที่นอน 8 เตียง หรือห้องพักที่มีเครื่องออกกำลังกายในตัว 

Even, by InterContinental

การได้เข้าพักที ่Even เหมือนการได้ปรับสมดุลอย่างแท้จริง เพราะเหตุผลที่ InterContinental สร้างประสบการณ์บูทีคที่นี่ขึ้นก็เพื่อนำเสนอความผ่อนตลายด้วยการออกแบบบรรยากาศให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีจากกฏเกณฑ์สุขภาพแบบเดิมๆ

เสื่อยูคาลิปตัส, ผลิตภัณฑ์ออแกนิค, เสื่อโยคะและกิจกรรมออกกำลังกายโดยเทรนเนอร์เป็นสิ่งที่ผู้เข้าพักทุกคนจะได้รับ หรือแม้แต่การอยู่ในช่วงไดเอท ก็สามารถสั่งสมูทตี้และอาหารมื้อเบาๆแบบรักสุขภาพมาทานได้เช่นกัน

 

ไฮไลท์พิเศษกับสุดยอดโรงแรมบูทีค

ความป็อปปูล่าของโรงแรมบูทค เป็นผลทำให้เกิดการจัดการมอบรางวัลให้กับโรงแรมดีเด่นที่เป็นแบบอย่างให้กับโรงแรมทั่วโลก รางวัลโรงแรมบูทีคยอดเยี่ยมได้มีการประกาศขึ้นในลอนดอน โดยนำเจ้าของโรงแรม ผู้นำในธุรกิจ รวมไปถึงสื่อมวลชน ไม่ว่าจะเป็นนักข่าว บล็อคเกอร์เพื่อเลือกผู้ชนะในครั้งนี้

โดยเริ่มแรก โรงแรมที่ได้รับคัดเลือก จะมีการเยี่ยมชมจากเหล่าคณะกรรมการและจะทำการคัดเลือกจากผู้เข้ารอบทั้งหมดด้วยขั้นตอนที่เข้มข้นสุดๆ!

 

โดยปี 2018 จากการคัดเลือกผู้ชนะ แบ่งตามประเภทต่างๆ ผู้ชนะได้แก่ the Awarta Nusa Dua Resort & Villas ในบาหลี ด้วยบรรยากาศทางเดินที่เต็มไปด้วยทิวไผ่เป็นแนวยาว กับสระว่ายน้ำแบบใกล้ชิดธรรมชาติ และต้นบอนไซอายุกว่า 100 ปีที่ตั้งตะหง่านกว่า 4 ต้น!

 

ถึงตรงนี้แล้ว จากความเห็นส่วนตัว ความเป็นบูทีคนั้น ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงไปของเวลาและรสนิยมของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดใด สไตล์ไหน เทรนด์อะไร จะดีกว่าหรือใหญ่ที่สุดขึ้นอยู่กับช่วงเวลานั้นๆ เอาเป็นว่า จะต้องลองสักครั้ง! แล้วจะติดใจ !

 

บทความโดย Karen Tina Harrison, About.com Guide

แปลโดย Ekthana Education Services