ถ้าคุณกำลังมองหาการเติบโตในหน้าที่การงานด้านการโรงแรม แต่ไม่แน่ใจว่าองค์กรไหนหรือบริษัทใดคือทางเลือกที่ดีที่สุด?

ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานอยู่แล้วหรือเป็นนักเรียนจบใหม่จากสถาบันการโรงแรม ถือเป็นเรื่องสำคัญในการที่จะเลือกที่ทำงานที่ตรงใจและเหมาะสม

ลองมาดูผลสำรวจกันว่าจะมีโรงแรมในดวงใจหรือโรงแรมไหนที่เหมาะสมกับเราบ้าง!

โดยทุกๆปี จะมีการประกาศรายชื่อ 100 บริษัทในฝันที่คนอยากทำงานด้วยมากที่สุด เป็นการสำรวจโดยบริษัทที่ปรึกษา Great Place to Work ® ที่ทำการสำรวจและวิจัยด้วยคำถามแบบสุ่มจากพนักงานกว่า 4.3 ล้านคนทั่วโลก

โดยการสำรวจเป็นการตอบคำถามกว่าหกสิบข้อ คลอบคลุมหัวข้อทั้งในเรื่องการบริหารงาน ค่าตอบแทน ความเท่าเทียม ความสนิทสนมในสถานที่ทำงานและการนำนวัตกรรมมาใช้ในการทำงาน

#1 Hilton Worldwide Holdings

เครือฮิลตัน เคยได้คะแนนที่สูงในการจัดอันดับของ Forbes แต่สำหรับปีนี้ถือว่าเป็นการติดอันดับที่สูงกว่าเดิมในลำดับที่ 1 ไม่ใช่เพียงแต่ในเครือโรงแรมด้วยกัน แต่รวมไปถึงบริษัทอื่นๆ โดยกว่า 96% ของพนักงานของฮิลตัน พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยมที่สุด! นั่นไม่ใช่เป็นชัยชนะของฮิลตันเพียงอย่างเดียว แต่นั่นเป็นชัยชนะของธุรกิจโรงแรม มาดูกันว่า อะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จ?​

Chris Nassetta เคยเข้ามาเป็นผู้บริหารในปี 2007 โดยเค้าริเริ่มโครงการเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงาน ไม่ว่าจะเป็น “การเลื่อนตำแหน่ง” เพื่อให้มีการเติบโตในหน้าที่การงานเป็นการสนับสนุนภายในองค์กรณ์​ “การโหวตการทำงานในทีม” ทุกๆเดือนพฤษภาคม

อีกหนึ่งเรื่องเล็กๆที่เขาพยายามทำก็คือ การค้นพบว่าชุดของพนักงานทำความสะอาดมีน้ำหนักที่มากและไม่คล่องตัวต่อการทำงาน จึงเป็นจุดริเริ่มที่ทำให้มีการร่วมกันออกแบบชุดพนักงานใหม่ ภายใต้การร่วมมือกับ Under Armour แบรนด์กีฬาชื่อดัง เพื่อออกแบบชุดที่มีน้ำหนักเบาลงและเหมาะสมกับการทำงานมากขึ้น

พนักงานใหม่ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งไหน จะได้รับความสำคัญที่เท่าเทียมกัน เพื่อให้เห็นถึงความสำคัญของตนเองในองค์กรณ์ เป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองเล็กๆที่จะขับเคลื่อนองค์กรณ์

โดยผล 96% ของพนักงานพูดว่า รู้สึกว่าได้รับการปฏิบัติที่ดีเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งไหนก็ตาม และอีก 98% รู้สึกได้รับการต้อนรับที่ดีมาก

อีกทั้งการโฟกัสในการเลื่อนตำแหน่งภายในองค์กรณ์เป็นการช่วยให้องค์กรณ์มีการขยายตัว และรักษาพนักงานเก่งๆเอาไว้ โดยสวัสดิการที่ดี เป็นเรื่องดีต่อธุรกิจเช่นกัน ซึ่งฮิลตันเองมีพนักงานกว่า 58000 คน มากกว่า 460 โรงแรมภายใต้ 13 แบรนด์​

#2 Marriot International

ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 31 เป็นอันดับที่ 2 ในอุตสาหกรรมโรงแรมทั้งหมด กว่า 86% ของพนักงานที่มีความพึงพอใจ โดยปกติแล้ว Marriot ปรากฏให้เห็นในโพลทุกๆปี อีกเคล็ดลับความสำเร็จขององค์กรณ์คือความหลากหลาย ทั้งในเรื่องของนโยบายการจ้างงาน โดยกว่า 54% เป็นผู้หญิงและชนกลุ่มน้อย และ อีก 65% เป็นเรื่องของแรงงานและการยอมรับ โดยมีเปอร์เซ็นของผู้หญิงกว่า 29% ในองค์กร เทียบกับบริษัททั่วไปที่มีเพียง 18% เท่านั้น

อีกเหตุผลที่ทำให้พนักงานมีความพึงพอใจคือในเรื่องของสวัสดิการ โดยเรียกกันว่า “Take Care Program”

พนักงานทุกคนจะสามารถเข้าถึง’MyARL’ โดยสามารถปรึกษาปัญหาได้ 24 ชั่วโมงไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของกฏหมาย การคุ้มครองบุตร หรือการเรียนรู้สกิลใหม่ๆในการติดต่อสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมที่แตกต่าง โดยการใช้ ‘Communication Across Cultures’ บนระบบออนไลน์

#3 Hyatt

ตามมาติดๆด้วยอันดับที่ 32 ในปีนี้ โดยติดอันดับอยู่ในลิสมากว่า 6 ปีติดต่อกัน โดยยังคงรักษามาตรฐานในด้านความพึงพอใจของพนักงานไว้ได้อย่างดีเยี่ยม Hyatt เองนั้นได้รับรางวัลมากมายในด้านนี้ ไม่ว่าจะเป็นรางวัล

• America’s Best Employers For Diversity – Forbes

• 2018 Best Workplaces for Women – FORTUNE and Great Place to Work ®

• Best Workplaces in the UAE – Great Place to Work UAE ®

• 100 Best Workplaces for Millennials – FORTUNE

• The Best Employers for New Grads – Forbes

• Best Company to Work For in Greater China – Great Place to Work ®

ปีที่แล้ว Hyatt เองนั้นได้เปิดตัว RiseHY เป็นอีกหนึ่งการเติบโตขององค์กรทั้งในด้านนวัตกรรมและการจ้างงาน โดยมีโครงการที่จะรับพนักงานอายุระหว่าง 16-24 ปี ที่ไม่ได้เรียนหนังสือและไม่มีงานทำเพื่อเสริมสร้างอาชีพ เป็นอีกหนึ่งโครงการเพื่อสังคมที่ทาง Hyatt ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ โดยมีการตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นจำนวนถึง 10,000 คน ภายในปี 2025

ในเดือนธันวาคม Hyatt ได้ปล่อยโครงการ ‘Global Day of Gratitude’ เพื่อให้แขกที่เข้าพักได้ส่งโปสการ์ดจากโรงแรมฟรี เพื่อส่งความรู้สึกถึงคนสำคัญ พร้อมทั้งยังสนับสนุนการบริการที่หลากหลายให้กับพนักงาน รวมไปถึงการเข้าถึง ‘Saba Cloud’ เป็นการเรียนรู้เพิ่มพูนทักษะผ่านระบบออนไลน์ และ เรียนรู้นโยบายต่างๆในด้านครอบครัว, การลางาน, การเงินให้กับทุกครอบครัว โดยพนักงานกว่า 91% พึงพอใจกับสวัสดิการนี้มาก

ในขณะที่ทั้งสามองค์กรอยู่บนระดับท็อปของการจัดอันดับในปี 2019 นั่นไม่ได้หมายความว่า จะมีเพียงบริษัทระดับนานาชาติที่ดูแลและทีสวัสดิการที่ดีให้กับพนักงานเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมี InterContinental Hotels Group ที่ได้ชื่อว่าเป็นองค์กรโรงแรมที่มีพนักงานหญิงทำงานอยู่เยอะที่สุดในโลก โดยสูงถึง 40%

เครือโรงแรมบูทีคสุดหรูอย่าง  Kimpton Hotels เองก็มีนโยบายดูแลด้านสุขภาพ ทั้งในเรื่องการจ่ายเงินชดเชยในขณะลาคลอดหรือแม้กระทั่งประกันภัยให้สัตว์เลี้ยงของพนักงาน

ในขณะที่ Four Seasons เองก็มีสวัสดิการเก๋ๆเช่น การให้พนักงานที่ทำงานหนัก ได้รับเงินรางวัลหรือทริปไปเที่ยวต่างประเทศแบบฟรีๆอีกด้วย

source: https://www.bluemountains.edu.au/2019/04/the-top-3-international-hotels-to-work-for-in-2019/